เลือกตั้ง 2566 – คาดค่าใช้จ่ายยิงเลเซอร์หาเสียงกลางกรุง อาจจ่ายเหยียบล้าน
จากกรณีการใช้เลเซอร์ยิงข้อความหาเสียงสะพานพระราม 8
ทีมข่าว PPTV ได้คุยกับ นายณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน ที่เจ้าตัวบอกเลยว่า นี่เป็นปรากฎการณ์ครั้งแรกของประเทศไทย ที่สามารถฉายเลเซอร์ขึ้นไปบนสะพานแลนด์มาร์คของประเทศไทยได้เลย มองมุมหนึ่งก็เป็นการใช้มีเดียที่น่าสนใจ แต่คำถามสำคัญ คือ ทำได้จริงหรอ เพราะหน่วยงานเอกชน นักการตลาดหลายคนก็อยากใช้เหมือนกัน จึงอยากทราบจากหน่วยงานที่ดูแลเช่นกันว่ามีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แสดงผลนานกี่นาที เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และโปร่งใส
โดยตัวสะพานพระราม 8 ถูกสร้างมาจากภาษีของประชาชน การจะใช้พื้นที่ของรัฐบาล บอกเลยว่า นักการตลาด ออแกไนซ์ รู้กันดีการขออนุญาตอะไรสักอย่างยากมากๆ แล้วขอทีนึงใช้เวลานานมาก นี่ขอวันเดียวทำไมได้เลย ยิ่งเรื่องค่าใช้จ่าย เทียบกับการใช้สถานที่บริเวณห้างดังยังใช้เงินหลักหลายแสนบาทจนถึงหลักล้านบาทในการทำการตลาดแบบนี้
เลือกตั้ง 2566 : “บิ๊กตู่” มองยิงเลเซอร์ หาเสียงสะพานพระราม 8 เป็นความหวังดี โยนดูกฎหมายผิดหรือไม่… คำพูดจาก สล็อต777 เว็บตรง
เลือกตั้ง 2566 : รทสช.โบ้ย “อ้น ทิพานัน” ขอยิงเลเซอร์หาเสียงเอง ไม่เกี่ยวกับพรรค
เลือกตั้ง 2566 : “วิษณุ” ไม่รู้ “รวมไทยสร้างชาติ” ยิงเลเซอร์หาเสียงบนสะพานพระราม 8 ผิดกม.หรือไม่
แล้วการใช้แลนด์มาร์คกลางกรุงเทพขนาดนี้ได้ ต้องใช้เงินระดับหลักล้านบาทอยู่แล้ว คำถามต่อไปคือ ใช้เงินจากไหน แล้ววิธีการถูกต้องหรือไม่ ถ้าส่งจดหมายขออนุญาตใช้งานได้ ก็อยากให้พรรคอื่นลองดูว่าใช้จดหมายฟอร์มเดียวกัน แบบเดียวกัน เปลี่ยนชื่อคน จะได้รับอนุญาติรวดเร็วแบบนี้หรือไม่
สอดคล้องกับ ผศ.ดร.บุปผา ลาภะวัฒนาพันธ์ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วิเคราะห์ไว้น่าสนใจว่า การใช้วิธียิงเลเซอร์ไปบนแลนด์มาร์ค ถือเป็นการสร้างแบรนด์รูปแบบหนึ่ง แต่การใช้วิธีแบบนี้ก่อนเลือกตั้งไม่กี่วันถือว่าเสี่ยงมากๆ เพราะเหมือนเหรียญสองด้าน… "ถ้าไม่ได้เปรียบ ก็ หายนะไปเลย" ขึ้นอยู่กับประชาชนกลุ่มใดเป็นผู้ตีความ หากคนเกลียดมากกว่าคนรัก รับรองได้ไม่คุ้มเสียแน่ๆ
อย่าลืมว่าตอนนี้ เวลาเกิดไวรัลใดๆ อานุภาพทำลายล้างกินพื้นที่หลายเท่าตัวในโลกโซเชียล อาจเปลี่ยนไปสู่การสื่อสารในภาะวิกฤตโดยปริยาย ดังนั้น ยิ่งใกล้เลือกตั้ง คนยิ่งสนใจ การขยับของพรรคการเมืองจคงต้องรอบคอบ บางครั้งการอยู่นิ่งๆ อาจเจ็บตัวน้อยกว่า ซึ่งอาจารย์ยังทิ้งท้ายไว้ว่า "รัดกุม" กับ "ปล่อยหมดหน้าตัก" มีเส้นบางๆ กั้นอยู่